วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

Social Media สู่การพัฒนาห้องเรียนในศตวรรษที่ 21



           Social Media สู่การพัฒนาห้องเรียน              ในศตวรรษที่ 21

วนิษา  สายหยุด
บทนำ
          ในยุคปัจจุบันการใช้งาน “Social Media” ในประเทศไทยได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นและคงไม่มีใครที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่รู้จัก คำว่า “ Social Media” เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา“Social Media” เรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายและมีอิทธิพลอย่างกว้างขวาง “Social Media” เริ่มเข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการใช้Facebook,YouTube, Instagram หรือ Twitter  โดยสื่อเหล่านี้ได้เข้ามาผสานเข้ากับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่กันแบบแยกไม่ออกไปแล้ว นับวันผู้ใช้มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นและขยายขอบเขตของอายุที่เข้ามาใช้งานมากขึ้น

          เมื่อเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว มีจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายและมีอิสระที่จะเข้าไปแบ่งปัน เผยแพร่ความรู้ที่ต้องการ สามารถแลกเปลี่ยน รวมทั้งเสนอความคิดได้โดยไม่ถูกปิดกั้นภายใต้กฎหมายที่กำหนด ก่อให้เกิดเครือข่ายที่เรียกว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social network) เพื่อติดต่อสื่อสารกัน โดยมี สื่อสังคม(Social Media) เป็นเครื่องมือในการแบ่งปันแลกเปลี่ยน รูปภาพ วีดีโอ เสียง และข้อความอีกด้วย

          ดังนั้นครูยุคปัจจุบันก็นำประโยชน์จากสื่อสังคมมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยมีการนำ  Social Media เช่น Facebook, Slide share, Flickr, Scribe และ YouTube  มาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ถือเป็นเครื่องมือที่หลากหลายในการใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถนำ Social Media หรือ สื่อสังคมเหล่านี้มารวบรวมและสร้างเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพได้อย่างน่าสนใจ โดยแหล่งเรียนรู้ผ่านสื่อสังคม ที่มีความน่าสนใจ เช่น การนำ Facebook มาทำหน้าที่เป็นกระดานข่าว ใช้ในการติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลนำ Slide share มาใช้ในการนำเสนองานในรูปแบบสไลด์,  ใช้  Flickr ในการนำเสนอรูปภาพนำเสนอเอกสารด้วย Scribe และใช้ YouTube ในการนำเสนอวีดิโอ การรวบรวมสื่อสังคมเหล่านี้ มาใช้ประโยชน์กับการเรียนการสอน ทำให้ ผู้เรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียนรู้ สามารถสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่จำกัดจำนวนครั้ง อีกทั้งยังสามารถดาวน์โหลดเพื่อใช้ทบทวนความรู้แบบออฟไลน์ได้อีกด้วย 

          เมื่อ Social Media เข้ามามีบทบาทกับการศึกษาแล้วปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้การ
ใช้ Social Media เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนได้มากที่สุดคือ คือ การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนโดยทั่วไปแล้ว ถ้าเรานึกถึงห้องเรียนเราก็จะนึกถึงกระดานดำที่อยู่หน้าห้องเรียน โต๊ะครูอยู่ด้านหน้าชิดกับหน้าต่าง หรือไม่ก็อยู่ใกล้กับประตูทางเข้าห้องเรียนมีโต๊ะนักเรียนวางเรียงกันหันหน้าเข้าหากระดานดำด้านข้างก็จะตกแต่งไปด้านบอร์ดผลงานนักเรียน หรือ บอร์ดให้ความรู้ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งบางที่ความรู้ที่ติดอยู่นั่นล้าสมัยมาก ๆ ไม่ได้อัพเดทเอาเสียเลย บรรยากาศในชั้นเรียนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดี ถ้าครูมีการจัดบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ของนักเรียน นักเรียนก็จะเกิดนิสัยใฝ่เรียนรู้ ค้นคว้า ค้นหา ความรู้ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ

 ในการจัดการเรียนการสอน ผู้สอนต่างปรารถนาให้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนดำเนินไปอย่างราบรื่นและผู้เรียนเกิดพฤติกรรมตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร บรรยากาศในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ความปรารถนานี้เป็นจริง พรรณี ชูทัย (2522 : 261 - 263)


รูปแบบของ Social Media
1.Blogเป็นคำที่มาจากคำว่าWeblogซึ่งถือเป็นระบบจัดการเนื้อหา(ContentManagement System: CMS) รูปแบบหนึ่ง ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเขียนบทความเรียกว่า Post และทำการเผยแพร่ได้โดยง่าย ไม่ยุ่งยากในการที่จะต้องมานั่งเรียนรู้ถึงภาษา HTML หรือโปรแกรมทำ web site 

ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Blog เช่น Learners, GotoKnow, wordpress,blogger เป็นต้น





2.Twitter และ Micro blog เป็นรูปแบบหนึ่งของ Blog ที่จำกัดขนาดของการ Post แต่ละครั้งไว้ที่ 140 ตัวอักษร โดยแรกเริ่มเดิมที ผู้ออกแบบ Twitter ต้องการให้ผู้ใช้เขียนเรื่องราวว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ในขณะนี้ (What are you doing?


ตัวอย่างของ Micro Blog ช่น Twitter, Pownce, Jaiku และ tumblr เป็นต้น โดย Twitter เป็นMicro Blog ที่มีผู้นิยมใช้มากที่สุด 




3. Social Networking หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ เป็นรูปแบบของเว็บไซต์ในการสร้างเครือข่ายสังคมในอินเทอร์เน็ต โดยจะเชื่อมโยงเรากับเพื่อนๆจนกลายเป็นสังคม เพื่อให้ผู้ใช้เขียนและอธิบายความสนใจหรือกิจกรรมที่ทำเพื่อเชื่อมโยงความสนใจและกิจกรรมกับผู้อื่นในเครือข่ายสังคมด้วยการสนทนาออนไลน์ การส่งข้อความ การส่งอีเมล์ การอัปโหลดวิดีโอ เพลง รูปถ่ายเพื่อแบ่งปันกับสมาชิกในสังคมออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ Social Networking ยังมีเครื่องมือสำคัญในการสร้างจำนวนเพื่อนให้มากขึ้น คือ ในส่วนของ Invite Friend และ Find Friend รวมถึงการสร้างเพื่อนจากเพื่อนของเพื่อนอีกด้วย
ตัวอย่าง เครือข่ายสังคมที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เช่น Facebook, Hi5, Bebo, MySpace และ Google+ เป็นต้น













4.Media Sharing เป็นเว็บไซต์ที่เปิดโอกาสให้เราสามารถ upload รูปหรือวิดีโอ  แฟ้มข้อมูล เพลง เพื่อแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ สมาชิกครอบครัว หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน  ปัจจุบันไม่จำเป็นจะต้องทุ่มทุนในการสร้างหนังโฆษณาที่มีต้นทุนสูง เราอาจจะใช้กล้องดิจิตอลราคาถูกๆ ถ่ายทอดความคิดเป็นรูปแบบวิดีโอ จากนั้นนำขึ้นไปสู่เว็บไซต์ Media Sharing อย่าง YouTube หากความคิดของเราเป็นที่ชื่นชอบ ก็ทำให้เกิดการบอกต่ออย่างแพร่หลาย
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่เป็น Media Sharing เช่น YouTube, Flickrและ 4shared เป็นต้น



5.Social News and Bookmarking เป็นเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงไปยังบทความหรือเนื้อหาใดในอินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้เป็นผู้ส่งและเปิดโอกาสให้คะแนนและทำการโหวตได้ เป็นเสมือนมหาชนช่วยกลั่นกรองว่าบทความหรือเนื้อหาใดนั้นเป็นที่น่าสนใจที่สุด ในส่วนของ Social Bookmarking นั้น เป็นการที่เปิดโอกาสให้คุณสามารถทำการ Bookmarkเนื้อหาหรือเว็บไซต์ที่ชื่นชอบโดยไม่ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง แต่สามารถทำผ่านออนไลน์ และเนื้อหาในส่วนที่เราทำ Bookmarkไว้นี้ สามารถที่จะแบ่งปันให้คนอื่น ๆ ได้ด้วย นักการตลาดจะใช้เป็นเครื่องมือในการบอกต่อและสร้างจำนวนคนเข้ามายังที่เว็บไซต์หรือ Campaign การตลาดที่ต้องการ




6.Online Forums ถือเป็นรูปแบบของ Social Media ที่เก่าแก่ที่สุด เป็นเสมือนสถานที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาพูดคุยในหัวข้อที่พวกเขาสนใจ ซึ่งอาจจะเป็นเรื่อง เพลง หนัง การเมือง กีฬา สุขภาพ หนังสือ การลงทุน และอื่น ๆ 
อีกมากมาย ได้ทำการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แสดงข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนถึงการแนะนำสินค้าหรือบริการต่าง ๆ นักการตลาดควนสนใจเนื้อหาที่พูดคุยใน Forums เหล่านี้ เพราะบางครั้งอาจจะเป็นคำวิจารณ์เกี่ยวกับตัวสินค้าและบริการของเรา ซึ่งเราเองสามารถเข้าไปทำความเข้าใจ แก้ไขปัญหา ตลอดจนถึงใช้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า เว็บไซต์ประเภท Forums อาจจะเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งในเว็บไซต์เนื้อหาต่าง ๆ

ห้องเรียนยุคใหม่สู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
               ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21 จะเน้นไปที่ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง และครูก็เป็นศูนย์กลางเช่นเดียวกันแต่ครูจะไม่ทำหน้าที่เป็นเพียงผู้บรรยายอีกต่อไป ครูจะทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้หรือเป็น Coaching  โดยที่นักเรียนกำลังเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ และครูทำหน้าที่เหมือนผู้ฝึกสอน ช่วยนักเรียนโดยให้นักเรียนเป็นผู้ลงมือทำเอง นักเรียนจะเรียนรู้ที่จะใช้วิธีการสอบถาม (inquiry method) และเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่น นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ก่อนที่พวกเขาจะออกไปจากห้องเรียน


            ตำราเรียนไม่ได้เป็นแหล่งข้องมูลหลักอีกต่อไปนักเรียนใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย  รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีเพื่อที่จะหาข้อมูลและรวบรวมข้อมูลที่พวกเขาต้องการ โดยที่พวกเขาอาจจะหาข้อมูลจากวารสารวิชาการต่าง ๆ การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ การสืบค้นข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อประยุกต์สิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้มาหรือเพื่อค้นหาข้อมูลต่าง ๆ  แทนที่การทำเพียงแค่โครงงานพิเศษ เทคโนโลยีจะถูกบูรณาการกันอย่างลงตัวในการสอนในทุก ๆ วัน ดังนั้นห้องเรียนจะต้องมีการเอื้ออำนวยต่อการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้นักเรียนสืบค้นข้อมูล แบ่งปัน และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง

ความสำคัญของการจัดบรรยากาศในชั้นเรียน
จากการสำรวจเอกสารงานวิจัย (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน. 2531: ) ได้ค้นพบว่าบรรยากาศในชั้นเรียนเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมให้นักเรียนเกิดความสนใจในบทเรียนและเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นที่ครูให้ความเอื้ออาทรต่อนักเรียนที่นักเรียนกับนักเรียนมีความสัมพันธ์ฉันมิตรต่อกันที่มีระเบียบ มีความสะอาด เหล่านี้เป็นบรรยากาศที่นักเรียนต้องการ ทำให้นักเรียนมีความสุขที่ได้มาโรงเรียนและในการเรียนร่วมกับเพื่อนๆ ถ้าครูผู้สอนสามารถสร้างความรู้สึกนี้ให้เกิดขึ้นต่อนักเรียนได้ก็นับว่าครูได้ทำหน้าที่ในการพัฒนาเยาวชนของประเทศชาติให้เติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ทั้งทางด้านสติปัญญา ร่างกาย อารมณ์ และสังคม โดยแท้จริง  ดังนั้น การสร้างบรรยากาศในชั้นเรียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
กล่าวโดยสรุปได้ว่า การจัดบรรยากาศในชั้นเรียนจะช่วยส่งเสริมและสร้างเสริมผู้เรียนในด้านสติปัญญา ร่างกาย  อารมณ์   และสังคมได้เป็นอย่างดี   ทำให้นักเรียนเรียนด้วยความสุข  รักการเรียน  และเป็นคนใฝ่เรียนใฝ่รู้ในที่สุด

 Social Media สู่การพัฒนาห้องเรียนในศตวรรษที่ 21 
        1. การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสังคมในชั้นห้องเรียน เนื่องจากบรรยากาศของเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารผ่านภายมิติความสัมพันธ์ของคนในเครือข่าย ด้วยเหตุนี้เมื่อทั้งผู้สอนและผู้เรียนเข้าสู่การสร้างความสัมพันธ์ภายในระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็จะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ในสังคมจริงในทิศทางที่ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจริง นอกจากนี้ลักษณะการนำเสนอข้อมูล สถานภาพที่เป็นปัจจุบัน ทำให้ทั้งผู้สอนสามารถติดตามพฤติกรรมและประสานข้อมูลได้อย่างทันท่วงที
        2.   การกระตุ้นให้เกิดการศึกษาค้นคว้า การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่กว้างขวาง การตั้งประเด็นแลกเปลี่ยน ข้อสงสัยต่าง ๆ ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ทำได้อย่างทันท่วงที และเป็นเครื่องมือสำหรับผู้สอนในการกระตุ้นผู้เรียนได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันผู้สอนสามารถนำเสนอเนื้อหาใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องและผู้เรียนสามารถติดตามได้อย่างต่อเนื่อง
        3.   การส่งเสริมการศึกษาตามความสนใจและความถนัด เครือข่ายสังคมออนไลน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของเว็บบล็อกเป็นระบบที่ส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานตามความถนัดและความสนใจของทั้งผู้สอนและผู้เรียน อีกทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนขยายผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
        4.   การส่งเสริมการบันทึกและการอ่าน การเผยแพร่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ผ่านรูปแบบของข้อเขียนในหลายลักษณะ เช่น ข้อความสั้นในระบบ twitter ข้อความปานกลางของเว็บ Facebook หรือข้อความยาวๆ ของระบบเว็บบล็อก เป็นต้น



       ในขณะเดียวกันเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็มีข้อเสียที่อาจจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เรียนที่อาจจะมีความจำเป็นที่ผู้ปกครองจะต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิด เช่น
     1.   การใช้งานเพื่อความบันเทิง เกมมากกว่าการศึกษาค้นคว้า ทั้งนี้ระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ เช่นใน Facebook จะประกอบด้วยเกมต่างๆ มากมาย และส่วนใหญ่ต้องการใช้เวลาในการเล่นที่ต่อเนื่อง
     2.   ความจำเป็นของอุปกรณ์การสื่อสาร ซึ่งส่วนใหญ่มีราคาแพงและมีค่าใช้จ่ายที่ต่อเนื่อง และหากผู้สอนใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในการนำเสนอข้อมูลไปยังผู้เรียนเป็นหลักอาจจะก่อให้การไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลของผู้เรียนได้
     3.   การรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและการขาดวิจารณญาณในการข้อมูล ทั้งนี้เมื่อผู้เรียนเข้าสู่การเรียนรู้ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ แหล่งการรับข้อมูลจะไม่สามารถจำกัดไว้เพียงจากผู้สอนเท่านั้น ซึ่งจำเป็นที่ผู้สอนจะต้องย้ำถึงแนวทางการตรวจสอบข้อมูลให้กับผู้เรียน
     4.   การขาดวิจารณญาณในการนำเสนอข้อมูล เนื้อหาของผู้เรียน ด้วยความสะดวก รวดเร็วในการเผยแพร่ข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ จะพบว่า หลายครั้งทำให้หลายคนขาดความยั่งคิดในการเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร ภาพหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ และนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมา


แนวปฏิบัติเพื่อการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในชั้นเรียน

        เมื่อ Social Media มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่ผู้สอนจะปฏิเสธการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ ด้วยเหตุนี้ผู้สอนควรมีแนวปฏิบัติสำคัญเพื่อให้การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์มีประสิทธิภาพและไม่ก่อให้เกิดผลที่ไม่พึงประสงค์ ดังนี้
1. ควรศึกษาธรรมชาติของระบบเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่จะนำมาใช้อย่างชัดเจน
2. ควรศึกษาความพร้อมของผู้เรียนในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์
3. เป็นต้นแบบที่ดีในการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์
4.  ติดตามพฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของผู้เรียนอย่างใกล้ชิด
5.  สร้างเครือข่ายผู้สอนและผู้ปกครองเพื่อประสิทธิภาพของการดูแลผู้เรียนในเครือข่ายสังคมออนไลน์

สรุป
       Social Media เป็นเครืองมือที่มีประโยชน์ในการนำมาพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นครูทุกคนต้องร่วมมือกันปรับเปลี่ยนห้องเรียนของตน เพื่อให้ตอบสนองต่อสังคมที่เปลี่ยนไป เพื่อใช้พัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างเต็มศักยภาพ มีทักษะที่จำเป็นในการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 และสามารถนำมาปรับใช้ได้ เพื่อนำพาตนเองให้สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขต่อไป 


อ้างอิง

ภควรรณ  ไทมา , (2012). การจัดบรรยากาศในชั้นเรียน สืบค้นเมื่อวันที 5 ตุลาคม 2558,            
จาก https://www.gotoknow.org/posts/438137%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1
ภาสกร  เรืองรอง,(2556). โซเชียลมีเดียกับการศึกษาไทย,สืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2559,                              จาก https://hooahz.wordpress.com/tag/social-media/page/3/
อารีลักษณ์ ปุ๊กน้อย. (2015).การใช้ SOCIAL MEDIA กับการศึกษาสืบค้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม
            2559, จาก http://oho.ipst.ac.th/social-media-education/
Srichao Vihogto, (ไม่ปรากฏ). ความรู้เบื้องต้น : ความหมายและความสำคัญของ Social Media ,สืบค้นเมื่อวันที่ ตุลาคม 2559,จาก http://crnfe2013.blogspot.com/2013/05/11-social-media.html